หากวันนี้เพื่อนๆ เป็น มนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้จำกัด แต่มีรายจ่ายไม่จำกัด วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้วิธีการแก้ไขปัญหานี้ กับบทความ 4 วิ ธีแก้ รายจ่ายเยอะกว่ารายรับ ไปดูกันว่าจะต้องรับมือ กับปัญหานี้อย่ างไร เพื่อไม่ให้อนาคตในวันข้างหน้าต้องลำบากไปมากกว่านี้
รายจ่ายมากกว่ารายรับ จะเกิดอะไรขึ้นบ้ าง?
มีความเสี่ ยงสูงที่เราจะเป็นห นี้จากการกู้ยืม ไม่ว่าจะเป็นห นี้ในระบบ หรือ ห นี้นอ กระบบต้องเดือ ดร้อนหาเงิน มาให้เพียงพอต่อ การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการ หารายได้เสริม หรือ การหยิบยืมสถานภาพทางการเงินย่ำแ ย่ จนอาจจะส่ งผลให้ประวัติการเงินของเราไม่ดี ซึ่งจะมีผลต่อ การทำธุรก ร ร มกับทางธนาคารในอนาคตด้วยมีเงินไม่เพียงพอที่จะใช้จ่าย
ในชีวิตประจำวัน อาจจะส่ งผลให้อ ดมื้อ กิน มื้อ ซึ่งนอ กจากที่เราหยิบยกมานี้ก็ยังมีสิ่งอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกก็ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละคน แต่ถึงอย่ างไรนั้นการหลีกเลี่ยง ไม่ให้เกิดปัญหานี้ขึ้นกับตัวเราเองก็จะเป็นการดีที่สุดครับ แต่หากว่าปัญหานี้เกิดขึ้น มาแล้ว และกำลังมองหาวิธีแก้ไขก็ติดต ามในหัวข้อต่อๆ ไปได้เลยครับ
รายจ่ายมากกว่ารายรับ เกิดขึ้นได้อย่ างไรบ้ าง?
การที่รายจ่ายมากกว่ารายรับนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้จ่ายแบบไม่มีการวางแผนของเราให้ดี ซึ่งทำให้เราไม่รู้ว่าใช้จ่ายไปแล้วเท่าไหร่ และ มีเงินที่สามารถใช้ได้ เหลืออยู่อีกเท่าไหร่ รวมถึงไม่สามารถแยกรายจ่ายที่จำเป็นและไม่จำเป็นออ กจากกันได้ นอ กจากนี้ยังรวมถึงรูปแบบวิธีการใช้จ่ายอีกด้วย ที่บางคนนั้นเงินเดือนไม่มาก แต่ใช้จ่ายแบบคนที่มีเงินเดือนสูงๆ เพราะต้องการมีหน้ามีต ามากกว่าหรือเทียบเท่าผู้อื่น จึงเลือ กใช้ของแพงๆ
โดยที่ไม่สนใจว่ารายได้ของตัวเองนั้นจะเพียงพอให้ใช้จ่ายหรือไม่ ก็จะส่ งผลให้รายจ่ายสูงกว่ารายรับ หรืออาจจะเรียกสั้นๆ ได้ว่า ใช้จ่ายเกินตัว นั่นเองหากใครที่เคยเป็นแบบนี้จนเกิดปัญหารายจ่ายมากกว่ารายรับ และอย ากแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับเราอีกก็สามารถดูในหัวข้อต่อไปได้เลยครับ
รายจ่ายมากกว่ารายรับ จะแก้ไขอย่ างไรได้บ้ าง?
แยกให้ออ กระหว่าง รายจ่ายจำเป็นและรายจ่ายไม่จำเป็นสิ่งแรกที่เราควรจะใส่ใจก็คือ การแยกแยะรายจ่ายที่จำเป็นและไม่จำเป็นออ กจากกัน เพื่อที่เรานั้นจะได้รู้ว่าสาเหตุที่ เรามีรายจ่ายเยอะกว่ารายรับนั้น มาจากสาเหตุอะไรบ้ าง ตัวอย่ างรายจ่ายจำเป็นก็เช่น ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอ าห า ร ค่าเดินทางไปทำงาน เป็นต้น หรือเข้าใจง่ายๆ ก็คือ รายจ่ายที่เรา
ต้องใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันนั่นเอง ส่วนรายจ่ายไม่จำเป็นก็เช่น ค่าเปลี่ยน มือถือใหม่ต ามแฟชั่น เป็นต้น หรือรายจ่ายที่ไม่จำเป็นในการดำเนินชีวิตของเรา หากงดใช้จ่าย ก็ไม่ส่ งผลอะไรต่อชีวิต แต่อย่ าลืมว่าต้องแยกให้ชัดด้วยนะครับว่าจำเป็นจริงๆ หรือว่าเรานั้นคิดว่าจำเป็น เพราะส่วนนี้จะมีผลต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครับ
1 เปลี่ยนงานใหม่
หากว่าเรานั้นรู้สึกว่างานที่ทำอยู่นั้นให้ผลตอบแทนน้อยเกินไป เราก็สามารถที่จะมองหางานใหม่ได้ เพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น แต่ทว่าข้อนี้เราควรพิจารณาให้ดีก่อน การตัดสินใจนะครับ เพราะอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน รวมถึงปัญหาในที่ทำงานใหม่ด้วย เพราะในทุกที่ทำงานนั้น มีปัญหาเสมอ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ล้วน มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น
ดังนั้นอย่ าลืมศึกษารายละเอียดของบริษัทและงานใหม่ให้ดีด้วยนะครับทางที่ดีนั้นไม่ว่าเราจะเงินเดือน มากหรือเงินเดือนน้อย ก็ควรที่จะรั กษ าสมดุลระหว่างรายรับและรายจ่าย ให้ดีอยู่เสมอ พย าย ามอย่ าให้รายจ่ายสูงกว่ารายรับ เพื่อที่เรานั้นจะได้ไม่ต้องเดือ ดร้อนหรือลำบากเรื่องเงินครับ
2 ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออ ก
ขั้นต่อมาเมื่อเรารู้แล้วว่าอะไรคือรายจ่ายจำเป็นและไม่จำเป็น ก็ให้เราตัดในส่วนของค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออ กทั้งหมด เพื่อลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของเราลงครับ
3 หากมีห นี้ให้รีบจัดการ
หากช่วงที่เรามีรายจ่ายมากกว่ารายรับนั้น ทำให้เราเป็นห นี้ ก็ขอแนะนำว่า หลังจากลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงแล้ว ก็ให้รีบวางแผนจัดการห นี้ที่มีอยู่ให้หมดไปโดยเร็ว เพราะยิ่งปล่อยไว้นานๆ ด อ กเ บี้ ยก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ส่ งผลดีต่อเราเลย
4 หารายได้เสริมเพื่อเพิ่มรายรับ
หนทางหนึ่งในการเพิ่มรายรับของเราที่ดีมากๆ ก็คือ การหารายได้เสริมนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำ OT หรือ ว่าจะหารายได้เสริมจากการข า ยออนไลน์ หรือจากช่องทางอื่นๆ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น อย่ างที่มีคนพูดกันไว้ว่า เรานั้นควรจะมีรายรับมากกว่าหนึ่งทางนั่นเอง
ที่มา m o n e y g u r u, f a h h s a i